söndag, september 26, 2010

Thailändsk översättning av svenska begrepp

Nu är det säkert femte eller sjätte gången som jag försöker reda ut de begreppen som jag ska skriva om här nedan. Varje gång jag gör det så tycker jag att jag har förstått det klart och tydligt och har koll på saken. Men när jag kollar det igen så fattar jag noll igen. Det är bara bevis på att man aldrig kan bli färdigt lärd trots att man tror det.

Beslutfattande organ i riks-, regional- och lokalnivå

Riksdagen – Landstingsfullmäktige(det gamla namnet är Landsting) – Kommunfullmäktige

รัฐสภา – สภามณฑล – สภาเทศบาล

Verkställande organ i riks-, regional- och lokalnivå

Regering – Landstingsstyrelse – Kommunstyrelse

รัฐบาล – คณะกรรมการมณฑล – คณะกรรมการเทศบาล

Länsstyrelse råkar bara har samma avledning som Landstingsstyrelse och Kommunstyrelse men den förstnämnda är tillsynsmyndighet från staten. (Wikipedia: Länsstyrelsen är regeringens företrädare i länen. Den viktigaste uppgiften är att se till att de mål som riksdagen och regeringen slagit fast inom en rad olika politikområden uppnås samtidigt som hänsyn tas till länets förutsättningar. Länsstyrelserna är alltså statliga myndigheter till skillnad från landstingen, som är en form av kommuner, sekundärkommun, med fullmäktige som väljs av invånarna.)

Regeringen har inte så bra möjligheter att ha tillsyn över kommunernas arbete så de lämnar ansvar till Länsstyrelse som ligger geografiskt nära kommunerna istället.

Landshövding (ผู้ว่าราชการจังหวัด) som utses av regeringen är Länsstyrelsens boss(?).

Länsstyrelse borde heta คณะกรรมการปกครองมณฑล

Anledningen till att jag väljer ordet ปกครอง är att Länsstyrelse har tillsynsfunktion därför tycker jag inte att ordet บริหาร passar lika bra där.

Län är มณฑล. Landstingskommun som många brukar kalla för Landsting tycker jag kan heta เทศมณฑล (Sekundärkommun = Län + kommun)

Jag har bloggat som samma ämne tidigare: http://thaitolken.blogspot.com/2008/05/s-styrs-sverige-vs-thailand.html

Jämför man mitt tidigare blogginlägg och det nuvarande så märker man kanske skillnader. Man lär sig ju något nytt varje dag. Man kan aldrig bli färdigt lärd, tycker jag. Därför försöker jag vara ”en halv kopp te” som lämnar utrymme för nya kunskaper och nya synvinklar.


Intressant länk: http://www.local.moi.go.th/webst/decon.htm

måndag, september 06, 2010

Till min kära son... ถึงลูกชายสุดที่รัก

บันทึกถึงลูกชายสุดที่รัก

วันนี้เป็นวันที่แม่มีความสุขที่สุดในบทบาทของความเป็นแม่
หนูเป็นเด็กดีที่สุดในโลก
แม่ได้ยินเสียงหนูตื่นแล้ว แต่เสียงหนูยังมีความสุขดีอยู่ แม่เลยปล่อยให้หนูอยู่คนเดียวในห้องไปก่อน
แปดโมงครึ่งแม่อุ้มหนูจากเตียง
เรากินอาหารเช้ากัน หนูไม่งอแงเลย
น้องหิว แม่บอกว่าน้องหิวนะ แม่ป้อนนมน้องก่อนนะ แล้วแม่ก็เดินไปอุ้มน้องจากเตียงเพื่อป้อนนมน้อง
ระหว่างนั้นหนูก็นั่งกินอาหารเช้าต่อเองจนเสร็จ
แล้วเราก็อยู่กันตามประสาแม่ลูก พี่น้อง
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ทั้งหนูและน้องเริ่มเบื่อ เริ่มงอแง
แม่พาหนูขึ้นรถเข็นเดินเพื่อไปเล่นสนามเด็กเล่น

เล่นจนได้เวลาอาหารเที่ยงเราก็เดินกลับบ้านกัน หนูช่วยแม่จูงรถเข็นน้องตั้งแต่สนามจนถึงบ้าน

เมื่อถึงบ้านแล้วหนูก็ถอดรองเท้า เก็บร้องเท้า
แม่อุ่นอาหารให้หนู หนูก็กินเอง ทำให้แม่สามารถนั่งให้นมน้องได้พร้อมกัน

หลังอาหารเที่ยงเรานั่งเล่นกันสักพัก แล้วหนูก็เข้านอนกลางวัน
น้องก็นอนกลางวัน
แม่ก็นอนกลางวันไปงีบนึง

แล้วก็ตื่นมาทำงานแค่ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

บ่ายแก่ๆ หนูก็ตื่น
แล้วเราก็นั่งกินขนมปังรองท้องกัน เพื่อที่จะได้ออกไปเล่นที่สนามเด็กเล่นอีกรอบ ก่อนกลับมากินอาหารเย็น

ที่สนามเด็กเล่น หนูก็เล่นแบบเดิมๆ
เริ่มจากกะบะทราย
ไปต่อที่ม้าโยก
แล้วก็ชิงช้า
วันนี้หนูไม่มีอารมณ์เล่นกระดานลื่น
และหนูก็ไม่เล่นที่บ้านน้อย

แต่หนูเล่นชิงช้าตัวใหญ่ตั้งนาน
น้องหลับดี แม่เลยลงนอนที่ชิงช้าใหญ่กับหนู
ทั้งสนามมีเราแค่สามคนแม่ลูก
น้องนอนในรถเข็น
หนูกับแม่นอนเคียงข้างกันบนชิงช้า
ชิงช้าโยกไปเบาๆ
และแม่ก็นอนกอดหนู
ตาแม่มองฟ้า จมูกแม่พยายามหอมผมหนู และกายแม่ก็พยายามแนบกับกายของหนู

ถึงผมหนูจะไม่มีกลิ่นหอมของแชมพู ถึงแก้มหนูจะไร้กลิ่นแป้ง แต่แม่ก็ชื่นใจที่สุดในโลกที่ได้นอนข้างๆ หอมแก้มหอมผมหนู

เริ่มใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว
หนูช่วยแม่จูงรถเข็นน้องกลับบ้านเหมือนเดิม

แม่บอกหนูว่า แม่ต้องไปกดตังค์ก่อนนะ แล้วแม่อยากไปร้านไทย ไปซื้อทุเรียน
เราแวะเข้าเมืองก่อนกลับบ้าน

แม่ได้ยินเสียงดนตรีเปิดหมวก
แม่อยากให้หนูได้ใกล้ชิดกับดนตรี แม้ปู่นักดนตรีของหนูจะจากไปแล้ว แม่ลุงนักดนตรีของหนูจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ แม้แม่จะเล่นเครื่องดนตรีอะไรไม่ได้สักอย่าง แต่แม่ก็หวังอยากให้หนูได้มีโอกาสใกล้ชิดกับดนตรี เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราเดินผ่านดนตรีเปิดหมวก แม่จะพาหนูหยุดฟัง

แล้วหนูก็ชอบปรบมือให้นักดนตรี
และนักดนตรีก็ยิ้มอย่างมีความสุข

วันนี้หนูเรียนรู้สิ่งใหม่
แม่ยื่นเงินเหรียญให้หนู แล้วบอกหนูว่าให้เอาเงินไปหย่อนให้นักดนตรี หนูก็ทำได้
ทีนี้แม่ก็รู้แล้วว่า จริงๆ แล้วหนูเข้าใจที่แม่พูดมากกว่าที่แม่คิดไว้ (หมายความว่าต่อไปหนูจะทำฟอร์มว่าไม่เข้าใจ ไม่ได้แล้วนะคะ :-) )

เราข้ามสี่แยกสุดท้ายก่อนถึงบ้าน
หนูมองเห็นปั้นจั่นที่อีกฝากหนึ่งของถนน แล้วหนูก็หยุดกลางคัน
แม่จำเป็นต้องดึงให้หนูเดินต่อ (ไม่งั้นเราจะโดนรถเหยีบนะลูก)
แล้วหนูก็โมโห นั่งลงกับพื้น ไม่ยอมไปต่อ
แม่อธิบายว่าแม่จะพาหนูไปดู แต่หนูต้องนั่งรถเข็นนะ เพราะว่าทางนั้นมันรถเยอะ
แม่ไม่รู้ว่าหนูไม่เข้าใจจริงๆ หรือหนูแกล้งไม่เข้าใจ (ประโยคหลังแม่พูดเล่น) แต่หนูไม่ยอมขึ้นรถเข็น
แม่จับหนูขึ้นรถเข็น ทั้งๆ ที่หนูไม่ต้องการ แม่รู้ว่าหนูไม่ชอบ
แล้วหนูก็แผลงฤทธิ์ แต่บางอย่างหนูก็ต้องให้แม่เป็นคนตัดสินใจนะคะ...

แล้วเราก็เดินไปดูปั้นจั่นกัน หนูยิ้มร่าเริงเหมือนเดิม

...
เราเดินกลับบ้านกัน
แม่นึกขึ้นได้ว่า เวลาเข็นรถผ่านธรณีประตูทางเข้าตึกมันหนักมาก แม่เลยคิดว่าจะลองให้หนูลงจากรถเข็นตั้งแต่ก่อนผ่านประตู แม่จะได้ถนอมหลังหน่อย
...

เรากลับเข้าบ้านได้โดยสวัสดิภาพ หนูกดเรียกลิฟท์ หนูกดเลือกชั้น หนูกดกริ่งประตู
แล้วหนูก็ถอดรองเท้า เอารองเท้าเก็บเข้าที่ (หนูคงเป็นคนเดียวในบ้านที่มีระเบียบ)
...

แม่อุ่นอาหารเย็นให้หนู
มื้อนี้เป็นปีกไก่ย่างที่เหลือจากงานเลี้ยง กับข้าวสวย
น้องหิวอีกแล้ว แม่ต้องให้นมน้อง ไม่สามารถฉีกเนื้อไก่คลุกข้าวให้หนูได้
หนูก็ลุยเองเลย

แม่นั่งมองหนูกิน
แล้วแม่ก็นึกขอบคุณหนู ที่หนูเป็นเด็กดี
แม้จะเป็น "วันแรก" ก็ตาม

...
แม่สัญญากับตัวเองว่า จากนี้ไปแม่จะทำตัวใหม่
ที่ผ่านมาแม่ชอบบ่นเกี่ยวกับหนู แม้จะเป็นการพูดเล่น เพราะว่าแม่เขินที่จะชมหนูให้ใครต่อใครฟัง
แม่คิดว่าการชมหนูให้หนูได้ยินในขณะที่หนูทำดีเป็นการเพียงพอแล้ว
แม่ไม่จำเป็นต้องอวดหนูให้ใครต่อใครฟัง
แต่แม่อาจจะกำลังคิดผิด ...

แค่อยากบันทึกว่า แม่รักหนูที่สุดในโลกเลยค่ะ
...

แม่

måndag, juni 28, 2010

Uppdatering

Det var länge sen man hann uppdatera något på bloggen.
Har bl.a. varit och jagat barnvagn - en sån där syskonvagn som man kan ha två barn i samtidigt.
Vi har kommit överens om att köpa en som heter Phil & Teds Sport. Förhoppningsvis så kommer den in i vår lilla hiss.
Även om det inte kommer in så är det smidigare för mig att åka buss och tåg med en sådan smal vagn än en bredare modell.
Men det ser trist ut för den som ligger underst i vagnen.
Men men - man kan inte få allt precis som man vill.

Vi har även bestämt att köpa en ny vagn... ojjj dyrt var det.
Men andrahandspriset är så högt så att det känns lika bra att köpa en ny med garanti och reparation ingår om något skulle krångla.
---

Personkemi verkar finnas även hos barn.
Här har Liam hittat en ny kompis på lekparken.
Photobucket


Mamma pratar ständigt i telefon.
Nu har Liam också hittat något som han tror fungerar som telefon.
Så här gör mamma...
Photobucket


Sommaren har kommit. Dags för sandaler.
Photobucket


Nu är man så stor så man kan hjälpa mamma att köra vagnen.
Photobucket


Photobucket

Firar midsommar i Gamla Uppsala.
Photobucket

Photobucket



Första besöket i kyrkan?
Photobucket

Igår var det städdag hemma.
Är man en i familjen får man också hjälpa till.
Photobucket


Kramar
Magrood

fredag, maj 21, 2010

Favosång

Snubblade på denna fina thailändska översättning av den engelska sången.
Det är den finaste översättningen jag har sett!
Ska nog mejla översättaren och säga det.

How many roads must a man walk down
มีถนน สักกี่สาย ชายต้องผ่าน

Before they call him a man
ก่อนใครขาน ลูกผู้ชาย ให้โลกเห็น

How many seas must a white dove sail
กี่ทะเล พิราบขาว เจ้าลำเค็ญ

Before she sleeps in the sand
ก่อนจะเห็น หาดทรายใหญ่ ให้ได้นอน

How many times must the cannonballs fly
อีกนานไหม ลูกปืนใหญ่ ยังปลิวว่อน

Before they are forever banned
ก่อนซุกซ่อน เอาไว้ ไร้พิษสง

The answer, my friend, is blowing in the wind
คำตอบนั้น พลิกพริ้วไป ไม่มั่นคง

The answer is blowing in the wind
ดุจสายลม พัดกระแส แปรเปลี่ยนไป

How many times must a man look up
นานเท่าไหร ใครสักคน ทนแหงนหน้า

Before he can see the sky
ก่อนพบว่า ฟ้าสีคราม งามสดใส

How many ears must one man have
คนหนึ่งคน ต้องมีหู สักกี่ใบ

Before he can hear people cry
ก่อนเขาได้ ยินเสียงไห้ จากปวงชน

How many deaths will it take till he knows
จะ ต้องตาย อีกเท่าไหร ให้เขารู้

That too many people have died
จำนวน ผู้ วอดวาย กายสิ้นสูญ

The answer, my friend, is blowing in the wind
คำตอบนั้น แกว่งไกวไป ให้อาดูร

The answer is blowing in the wind
เหมือนลมหมุน วุ่นวาย แล้วคลายเกลียว

How many years must a mountain exist
นานกี่ปี ที่เขาขุน หนุนตระหง่าน

Before it is washed to the sea
ก่อนเซาะผ่าน กลืนหาย ในกระแส

How many years can some people exist
กี่ปีเล่า ประชาชน ทนขื่อแป

Before they're allowed to be free
ก่อนเปลี่ยนแก้ จากทาสไพร่ เป็นไทชน

How many times can a man turn his head
กี่ครั้งที่ มีผู้คน เบือนหน้าหนี

And pretend that he just doesn't see
แสร้งทำที ไม่มองมา น่าฉงน

The answer, my friend, is blowing in the wind
คำตอบนั้น พริ้วแผ่วไหว ให้พิกล

The answer is blowing in the wind
เลห์ลมวน คือคำตอบ มอบผู้คน

Thailändska översättningen av:
ภาษาไทย โดย ภาณุ ปิ่นทอง parnupin@hotmail.com 19/10/09

:::

Livet rullar på.
Jobbar mindre nu när jag har vunnit kampen mot Försäkringskassan.
Det är nog bra.
Jag minns hur det var förra året. Ett hemskt år.
Vissa nätter låg jag i sängen och undrade om jag skulle vakna dagen därpå.

Nu är kampen över.
Hinner njuta av tillvaron mer.
:::

Fick reda på att vi inte får dagisplats förrän 25 augusti.
Vi hade bett om 15 juli (2 veckor innan babisen kommer). Lite korkat av oss. Det är ju mitt i sommarlovet!!!
Men men. Man får försöka njuta av den tiden man har med lillen.
Hoppas bara att han inte känner sig att han blir bortlämnat på grund av att vi fått syskon.

:::

Kramar
Magrood

tisdag, mars 23, 2010

Livet är underbart igen

Sitter på en restaurang och väntar på tåget.
---

Vi har flyttat färdigt, men det är en bit kvar innan jag har packat upp färdigt. Vi har inte bråttom med det. Njuter av den nya lägenheten. Liam trivs, jag trivs och mannen min trivs.

Hushållsarbete har blivit mer intressant sedan vi har flyttat till ett "riktigt" hem. Egentligen tar det inte så lång tid att putsa skåpluckor, att damma av här och där, att sopa golvet, att våttorka golvet osv osv... har jag kommit på.

Men om det är 100 saker som ska göras och varje sak tar ett par minuter så skulle det innebär 200 minuter ändå.... Ops

...

lördag, mars 06, 2010

วันนี้ย้ายบ้านค่ะ Idag flyttar vi!

Yeah...

Om 9 timmar kommer folk att hjälpa oss att flytta.
Bäst att gå och lägga sig nu innan L väcker oss.

Natti natti...

เย้
อีก ๙ ชั่วโมงก็มีคนมาช่วยย้ายบ้านแล้วค่ะ
ไปนอนดีกั่ว ก่อนที่บักหำน้อยจะปลุก

หลับฝันดีค่ะ

måndag, mars 01, 2010

Försörjningsstöd / Social bidrag på thailändska ข้อมูลเรื่องเงินอนุเคราะห์ค่าครองชีพ หรือเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ เป็นภาษาไทย





Försörjningsstöd หรือชื่อเดิมคือ Socialbidrag

เป็นการช่วยเหลือทางการเงิน ที่สำนักงานสวัสดิการสังคมเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งตามข้อบังคับ (krav) แล้วทางเลือกนี้จะต้องเป็นทางเลือกสุดท้ายในชีวิตจริงๆ (sista utväg) โดยเขาจะตรวจสอบดูว่าเรามีทรัพย์สิน (tillgång) อะไรไหม หากมีก็ต้องใช้ทรัพย์สินพวกนั้นก่อน เช่น หากมีบ้านก็ต้องขาย หากมีรถก็ต้องขาย หากมีเงินในธนาคารก็ต้องใช้เงินตรงนั้น มีเงินลงทุนใหนหุ้นหรือกองทุนต่างๆ ก็ต้องผันออกมาเป็นตัวเงินก่อน นอกจากนี้หากผู้เดือดร้อนอยู่ในสภาพที่สามารถทำงานได้ (arbetsför) ก็ต้องหางานทำ หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องไปลงชื่อเป็นผู้หางานที่สำนักงานจัดหางาน และหากทางการแนะนำ (หรือสั่งกลายๆ ) ให้ไปฝึกงาน หรือไปเรียนภาษาสวีเดนสำหรับชาวต่างชาติ เราก็ต้องทำตาม หากขาดโดยไม่มีเหตุผลที่น่ารับฟัง เขาก็จะหักเงิน การขาดโดยมีเหตุผลน่ารับฟัง ก็เช่น เวลาเราต้องไปทำธุระเรื่องลูกกับทางการ เราก็ขอให้เจ้าหน้าที่เซ็นเอกสารรับรองมา แล้วเอาใบนี้ไปยื่นให้ครู เพื่อที่ครูจะได้ไม่ติ๊กขาด

อืม อีกข้อหนึ่ง ที่กรูดลืมเขียนในผัง ก็คือ หากมีสามีภรรยา หรืออยู่กินกันเฉยๆ แบบ sambo ก็ต้องเกาะเขากินไปก่อน ในการพิจารณาเรื่องเงินช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เขาจะคำนวนรายได้ของสามี ภรรยา หรือแฟนของเราด้วย หากคำนวณแล้วไม่พอสำหรับการยังชีพจริงๆ เขาจึงจะให้ความช่วยเหลือ

เงินตัวนี้จะแบ่งเป็น ๓ ส่วนหลักๆ
๑. มาตรฐานระดับชาติ (Riksnorm) ซึ่งทางการจะกำหนดมา ยอดจะเท่ากันทั่วประเทศ ครูของมะกรูดเคยบอกว่า ส่วนนี้ให้เพื่อคนเราอาชีวิตรอดได้จริงๆ ซึ่ง จะเป็นค่าอาหาร เสื้อผ้า อุปกรณ์สุขอนามัยส่วนบุคคล ค่าธรรมเนียมทีวี และโทรศัพท์ (อืม บ้านนี้ใจดีเนาะ ที่คิดว่าถ้าไม่มีทีวีและโทรศัพท์ แล้วจะเอาตัวไม่รอด)

๒. ส่วนที่นอกเหนือจากข้อ ๑ ส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ราคาแตกต่างกันมากสำหรับแต่ละพื้นที่ และแต่ละคน เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าไฟ ค่าเดินทางไปทำงาน (สำหรับคนที่ทำงาน คนที่ไม่ทำงานก็ไม่ได้) ค่าธรรมเนียมกองทุนเงินทดแทนกรณีว่างงาน ค่าธรรมเนียมสหภาพแรงงาน เป็นต้น

๓. ค่าอื่นๆ ตามความจำเป็นและตามที่จ่ายจริง เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าทันตกรรม ค่าแว่นตา


เอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่
- บัตรประจำตัวประชาชน (Id-kort)
- แบบคำร้อง (ansökan)
และเอกสารอื่นๆ ที่แสดงถึง
- รายได้ (inkomster) เช่น สลิปเงินเดือน (lönespecifikation) ใบสั่งจ่าย (utbetalningsavi) จากหน่วยงานต่างๆ เช่น เงินต่างๆ จากสำนักงานประกันสังคม ไม่ว่าจะเป็น barnbidrag, bostadsbidrag, underhållsstöd, sjukpenning, sjukersättning เป็นต้น และแบบแสดงรายการเสียภาษี (skattedeklaration)
- ค่าใช้จ่าย (utgifter) เช่น บิลค่าเช่า สัญญาเช่า เป็นต้น
- ทรัพย์สิน (tillgångar) เช่น แบงค์สเตทเม้นท์ ซึ่งขอให้ธนาคารปริ้นท์ออกมาให้ได้ แล้วแต่เจ้าหน้าที่จะกำหนดมาว่าต้องการข้อมูลย้อนหลังไปนานแค่ไหน และเอกสารอื่นๆ ตามแต่เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบ

พร่ามมาซะเยอะ ยังไม่ได้บอกเลยค่ะว่าไปยื่นคำร้องได้ที่ไหน

ให้ไปที่สำนักงานสวัสดิการสังคมค่ะ (socialkontor) ซึ่งแต่ละแห่งอาจจะมีชื่อเรียกแตกต่างกัน และแต่ละคอมมูน ก็จะแบ่งงานสวัสดิการสังคมออกเป็นหน่วยงานย่อยที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่ชื่อเขาจะเป็นทำนอง Ekonomiskt bistånd หรืออะไรทำนองนี้ค่ะ
หากไม่พอใจกับคำตัดสินของเจ้าหน้าที่ก็สามารถอุทธรณ์ไปได้ที่ศาลปกครอง Förvaltningsdomstol (ชื่อเดิม Länsrätten)
...
เวลาคำนวน เขาก็จะคำนวนค่าใช้จ่ายตามส่วนต่างๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้น แล้วคำนวนรายได้ของเราทั้งหมด หลังจากนั้นจึงนำยอดสองตัวนี้มาหักกัน ขาดเท่าไหร่ เขาจึงช่วยเฉพาะในส่วนที่ขาด
...

ด้วยความปรารถนาดี
มะกรูด

onsdag, februari 24, 2010

Äkta Isaan-pojk ลูกอิสานของแท้

Nu är Liam 13 månader.
เลียมอายุ ๑๓ เดือนแล้วนะครับ



ลูกอิสานของแท้นะตรับ
Äkta isaan-pojk.



Mamma är stolt.
คุณแม่ปลื้มค่ะ



ช่วยแม่ทำกับข้าว
Hjälper mamma att laga mat.

Information på thailändska om gymnasieprogram

ข้อมูลเป็นภาษาไทยเกี่ยวกับหลักสูตรมัธยมปลายของสวีเดน

เห็นว่าเป็นประโยชน์แต่ค้นที่เว็บไซต์ของหน่วยงานต้นสังกัดยากหน่อย เลยขอนำมาแปะที่นี่นะคะ


torsdag, februari 18, 2010

Sammanfattning om havandeskapspenning på thailändska

สรุปเกี่ยวกับเงินทดแทนกรณีมีครรภ์ (havandeskapspenning) เป็นภาษาไทย

ดูแผนผังประกอบนะคะ



เงินทดแทนกรณีมีครรภ์ (Havandeskapspenning) คือ เงินช่วยเหลือคนท้องที่ไม่สามารถทำงานได้ เลยต้องหยุดงาน เนื่องจากขาดรายได้จากการทำงาน ทาง สนง. ประกันสังคม (Försäkringskassan) จึงจ่ายเงินทดแทนตัวนี้ให้

เงื่อนไขที่ สนง. จะรับพิจารณาก็คือ (Villkor)
a) งานนั้นเป็นงานที่หนัก (Fysiskt påfrestande) เช่นงานที่ต้องยกของหนัก (tunga lyft) หรืองานที่เคลื่อนไหวร่างกายอยู่ท่าเดียวซ้ำๆ (ensidig rörelse) เช่น งานทำความสะอาด (städ) หรืองานโรงงาน (fabriksarbete)

b) งานนั้นเป็นงานที่กฎหมายสิ่งแวดล้อมในการทำงานระบุไว้ ห้ามไม่ให้คนท้องทำ (Förbjudet enligt Arbetsmiljölagen) เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ (risk för fosterskada) เช่น งานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีต่างๆ เช่น ช่างทำผม (hårfrisör) ที่ต้องสัมผัสกับน้ำยาย้อม น้ำยาโกรก น้ำยายืดผม ฯลฯ และนักเคมี (kemist)

ถ้างานของคนที่ท้องเข้าข่ายตามเงื่อนไขสองข้อข้างบนต้องทำอย่างไร (Hur)
อันดับแรกนายจ้างจะต้องพยายามโยกย้ายตำแหน่งงาน (Omplacering) ให้ไปทำงานหน้าที่อื่นแทน หากนายจ้างไม่สามารถดำเนินการให้ได้ จึงจะมีสิทธิ์ได้รับเงินทดแทนกรณีมีครรภ์ (Havandeskapspenning) ซึ่งแต่ละคนก็จะได้รับสิทธิ์ไม่เท่ากัน

สำหรับคนที่เข้าข่ายข้อ a) จะสามารถรับเงินตัวนี้ได้ตั้งแต่วันที่ ๖๐ ก่อนครบกำหนดคลอด (beräknad förlossning) จนถึงวันที่ ๑๐ ก่อนครบกำหนดคลอด รวมเป็นจำนวนวันที่จะได้รับประโยชน์ตัวนี้ได้สูงสุด ๕๐ วัน

สำหรับคนที่เข้าข่ายข้อ b) จะสามารถได้รับตั้งแต่วันที่คำสั่งห้ามตามกฎหมาายสิ่งแวดล้อมในการทำงานมีผลบังคับใช้ ไปจนถึง ๑๐ วันก่อนครบกำหนดคลอด ซึ่งไม่ได้มีเพดานกำกับไว้ว่าได้สูงสุดกี่วัน

จำนวนเงินที่จะได้ คือ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของ SGI (Sjukpenningsgrundande inkomst หมายถึง รายได้ที่เป็นฐานคำนวนเงินทดแทนกรณีป่วยไข้ ซึ่งได้แก่ รายได้ต่างๆ ที่เราเสียภาษีนั่นแล หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนก็ว่าได้) ซึ่งเงินตัวนี้เราอาจจะได้เต็มวันเลย (คือไม่ทำงานเลย อยู่บ้านทั้งวัน) หรืออาจจะได้แค่สำหรับครึ่งวัน กรณีที่เราหยุดงานเพราะการนี้แค่ครึ่งวัน เป็นต้น

การยื่นเรื่อง ให้ยื่นที่ สนง. ประกันสังคม พร้อมกับแนบใบรับรองการตั้งครรภ์ (Moderskapsintyg) ซึ่งทางพยาบาลผดุงครรภ์ที่ศูนย์อนามัยแม่ (Mödravårdcentral) จะเป็นผู้ออกให้ โดยปกติเขาจะออกให้หลังจากที่เราได้ทำการอุลตร้าซาวนด์ดูเด็กในท้องแล้ว

ด้วยความปรารถนาดี
มะกรูด

torsdag, januari 21, 2010

1 year laew khrap

คุณยายต้องกดที่รูปนะครับ ถึงจะเห็นภาพเต็ม

ลูกอิสานของแท้ครับ
Photobucket


เตรียมตัวเข้านอน แม่บอกว่าให้กินจนท้องอิ่ม ถึงจะหลับสบาย
Photobucket

เกิดมาเตี้ยก็ต้องใช้หมอง
Photobucket

แปรงฟันกับแม่
Photobucket

กินเองได้แล้ว
เดี๋ยวผมก็จะอ่านหนังสือพวกนี้ให้หมด
Photobucket

แม่บอกว่า เวลาพริกหมด ใช้ซ้อสทาบัสโกแก้ขัดก็ได้
แต่ทำไมมันหมดเร็วจัง
จุ๊ๆ อย่าบอกแม่นะครับว่าผมแอบชิมของแม่
Photobucket


เอ ผ้าอ้อมนี่มันกันความชื้นได้จริงหรือเปล่า
พี่โดโบลองแล้ว ผมลองมั่ง
Photobucket

ไปว่ายน้ำกับพ่อมาครับ
Photobucket

ไปโรงเรียนกับแม่
Photobucket

Photobucket

Photobucket

แม่ๆ นี่ขนาดโรงเรียนเขาเลี้ยงอาหารสามมื้อ และเบรกอีกสองนะเนี่ยะ
แม่ยังมีรอบพิเศษอีก
Photobucket

พอกล่อม
Photobucket

Photobucket

lördag, januari 09, 2010

Kammarkollegiets tolkprov får kritik

Sitter och pluggar... hittar något lite uppmuntrande.
Väntar fortfarande på svar på min begäran om omprövning av det gamla provet.
Har hittat ett till bevis på att jag borde få mer poäng - men har inte haft möjlighet att skicka det.

12:46 | onsdag 15 november 2006
Kammarkollegiets tolkprov får kritik
Den som vill bli auktoriserad tolk måste klara ett prov hos Kammarkollegiet. Men flera tolkar har fått prover underkända, trots att svaren är korrekta och det framgår inte att man kan få en ny prövning.
Ingen information om att beslutet kan överklagas
Detta hände tolken Veronika Holmer, som fick rätt efter att ha ifrågasatt Kammarkollegiets bedömning.
– Om man blir felbedömd och kanske inte förstår att man kan komma med kritik kan man tappa modet och inte går upp igen. Då är det någon som har blivit utbildad och är väldigt duktig och inte fortsätter, säger hon.
Kammarkollegiet är en gammal myndighet som ska vara en garant för att samhällets och enskildas juridiska och ekonomiska krav uppfylls på många olika områden.
Ordnar tolkprover
För tolkarnas del ordnar Kammarkollegiet prover. En tolk som vill bli auktoriserad ska göra ett skriftligt prov och ett muntligt där man ska klara av att tolka korrekt i en låtsad situation.
Auktorisationen är ett yrkesbevis, och själva kvittot på att tolken uppfyller samhällets krav.
Veronika Holmer, som är auktoriserad tolk på två språk och har specialkompetens för juridik och sjukvård, nöjde sig alltså inte när Kammarkollegiet underkände provet, utan ifrågasatte bedömningen och blev då godkänd.
Men möjligheten att få en ny prövning framgår inte i det besked som kom från Kammarkollegiet.
– Nej, om det står att det här beslutet inte går att överklaga är det inte självklart att man kan ställa sig undrande eller komma med frågor, säger hon.
Många har drabbats
Enligt Sveriges Tolkförbund har fler tolkar råkat ut för att ha blivit godtyckligt bedömda.
Ett svar som fått rätt en gång kan ha underkänts vid nästa tillfälle, eller ha bedömts olika för olika personer.
Tolkförbundet vill ha en ny form av omprövning, där prover bedöms av en annan person än den som först rättade.
Hos Kammarkollegiet är Kerstin Björkholm enhetschef med ansvar för att auktorisera tolkar. Hon säger att möjligheten till rättelse är tillräcklig, trots skrivningarna i Kammarkollegiets svar.
– Det framgår av förvaltningslagen rent generellt, så är det alltid när myndigheter fattar beslut att man har rätt att begära omprövning, säger Kerstin Björkholm.
Ska inte det framgå av det dokument man får vart man kan vända sig?
– Det har jag aldrig tänkt på att vi skulle skriva ut det i beslutet. Men det får vi väl överväga.
Annika Digréus
annika.digreus@sr.se

Källa: http://www.sr.se/Ekot/artikel.asp?artikel=1038246

torsdag, januari 07, 2010

Värde av tid

คุณค่าแห่งเวลา
“ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 10 ปีมีค่าขนาดไหน ถามคู่แต่งงานที่เพิ่งหย่าร้างกัน
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 4 ปีมีค่าขนาดไหน ถามนิสิตนักศึกษาที่เพิ่งรับปริญญาจากมหาวิทยาลัย
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 ปีมีค่าขนาดไหน ถามนักเรียนที่สอบไล่ตก
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 9 เดือน มีค่าขนาดไหน ถามแม่ที่เพิ่งคลอดลูก
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 เดือน มีค่าขนาดไหน ถามมารดาที่คลอดบุตรยังไม่ครบกำหนด
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 อาทิตย์ มีค่าขนาดไหน ถามบรรณาธิการหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 ชั่งโมง มีค่าขนาดไหน ถามคนรักที่รอพบกัน
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 นาที มีค่าขนาดไหน ถามคนที่พลาดรถไฟ รถประจำทาง หรือเรือบิน
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลา 1 วินาที มีค่าขนาดไหน ถามคนที่รอดตายจากอุบัติเหตุอย่างหวุดหวิด
ถ้าท่านอยากรู้ว่าเวลาเสี้ยววินาที มีค่าขนาดไหน ถามนักกีฬาโอลิมปิกที่ชนะเหรียญเงิน
เวลาไม่เคยรอใคร เมื่อมันผ่านไปแล้ว มันจะไม่กลับมาอีก จงใช้เวลาของท่านทุกขณะอย่างดีที่สุด ท่านจะรู้คุณค่าของเวลา เมื่อท่านแบ่งปันกับคนที่พิเศษสุดในชีวิตของท่าน”

ที่มา: http://www.fpmconsultant.com/htm/advocate_dtl.php?id=771